วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑

เป็นหวัดง่ะ@_+

โอย..ไม่ได้ลิ้มรสชาดของคำว่าไข้ขึ้นมานานมากแล้ว วันนี้มันเลยกลับมาเยี่ยมซะเลย

เหตุการณ์เริ่มจากการที่เราต้องระเห็ดไปนอนเป็นเพื่อนกับคุณเพื่อนหญิงที่หอบสังขารมาจากหาดใหญ่ แล้วจองรร.ริมน้ำไว้ ซึ่งการนอนสองคืนในห้องอันหนาวเหน็บ ในวงเล็บ ลดแอร์ก็ไม่ได้ รร.เขาหรูเจงๆเร้ย ทำให้ร่างกายอันอ่อนแอของเรา ทนไม่ไหว งั่กๆ ไข้ขึ้น น้ำมูกไหลซ้า

แต่วันแรกๆก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเท่าไหร่ ผ่านมา 3 วัน อาการเริ่มเห็นเด่นชัด

วันนี้แหละ! ใช่เลย หลังจากอดนอนเพียงเล็กน้อย เพราะย่ามใจว่าวันรู่งขึ้น (วันมาฆบูชา) เป็นวันหยุด จะได้นอนยาว จึงเข้านอนเอาเมื่อเวลาตีหนึ่งกว่าๆ เกือบตีสองเท่านั้น แต่ว่าพอตอนเช้าขึ้นมาจริงๆ ซึ่งอุตส่าห์อดทนนอนต่อจนถึง 11 โมง แต่อาการก็ยังไม่ได้ดีขึ้นเลย น้ำตาเริ่มไหล เพราะพิษไข้ คอเจ็บจนกลืนน้ำแทบไม่ลง โอ๊ย..ไม่อยากกินยาว้อยยยยยย!!!

พยายามอาบน้ำ เออ..ดีขึ้นหน่อย ออกไปเดินข้างนอกนิดซิ น้องสุดหล่อเขานัดไว้ด้วย กลับมาก็ยังรู้สึกแย่ลงกว่าเดิมอีก ตอนนี้น้ำมูกไหลไม่หยุดแว้ววววว

ช่วยด้วยยยยยยย...............(หยุดงานดีฝ่า) เอิ๊กๆ

วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑

งู งู งู

ฝันเห็นงู เขาว่าจะเจอเนื้อคู่ แต่ถ้ายิ่งโดนงูรัด เขาว่าจะโดนคนฟันภายในสามวันเจ็ดวัน เอิ๊ก อันนี้ไม่เฟิมนะ

แต่เรื่องที่จะเล่า ไม่ได้เป็นแค่ความฝัน เป็นเรื่องจริงคับพี่น้อง !! ที่ว่างูมันชอบมาหาเรา เพราะไปที่ไหนๆ ก็มักจะเจองูเป็นประจำ อย่างเมื่อปีใหม่ที่เล่าพร้อมรูปให้ดู ก็เจอมาสามตัวสดๆ ในเวลาสี่วัน อันนี้ยังไม่นับที่ผ่านมาอีกเยอะแยะ เพราะนับไม่หวาดไม่ไหว

แต่วันก่อนสิ เจ๋งว่ะ!! นั่งๆทำงานอยู่ดีๆ งูเลื้อยเข้ามาหาถึงที่ เกือบถึงโต๊ะทำงานอยู่แล้วเชียว ดีว่าเหลือบไปเห็นอะไรแว่บๆ แผลบๆซะก่อน ก็รีบให้น้องผู้ชายมาช่วยกันเขี่ยมันออกไป แต่มันก็อยากอยู่ด้วยจัง อุตส่าห์มุดเข้าไปแอบอยู่ในเครื่องปริ้นเตอร์อันเก่าที่ว่างอยู่ใต้โต๊ะ อ้อ..ลืมบอกไปว่ามันเป็นงูเขียว ตัวไม่ใหญ่มาก ขนาดเท่านิ้วชี้หรือนิ้วโป้งเองล่ะ แต่ตัวยาวประมาณ 60-70 ซม.ได้

พวกเราต้องยกปริ้นเตอร์ออกไปวางตากแดดทั้งวัน หวังให้มันออกไปเอง แต่ไม่มีเสียล่ะ หน้าด้านจัง ไล่ไม่ยอมไป ตอนเย็นต้องเอาทั้งเครื่องปริ้นเตอร์ใส่ถุงดำแล้วมัดปากถุงไว้แน่น ไอ้น้องที่ทำงานกะให้มันหายใจไม่ออก หมดแรง นอนสลบแน่นิ่งไปเอง แล้วจะได้จับออกไปทิ้งได้ง่ายๆ แต่ไม่มีเสียล่ะ จะดูถูกกันเกินไปหน่อยแล้ว

วันรุ่งขึ้นก็ยังเห็นปากถุงปิดสนิท เราเองก็ไม่กล้าหาญไปเปิดดูเองหรอก กะว่าเดี๋ยวว่างๆ ค่อยเอาออกมาดูกัน ไม่ทันไร เผลอแป๊บเดียว ทำงานไปเพลินๆ เดินออกไปเข้าห้องน้ำ เฮ้ย!!! ตัวอะไรวะเลื้อยแผล่บๆเข้าใต้ชั้นวางของ มันอีกแล้ว โห..มันเล่นเจาะถูงเป็นรูแล้วมุดออกมาเองเลย เห็นมั๊ย? ฉลาดนะ จะบอก

แล้วต่อมาทำไงล่ะ หาไม่เจออ่ะดิ คุณขรา ต้องปล่อยมันไปตามบุญตามกรรม(ของคนที่โดนมันกัด ในวงเล็บอีกที ถ้าซวยโดนกัด) จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันออกไปหรือยัง เราก็ทำได้แค่เอา มะกรูด มะนาว ฝานเป็นแผ่นๆไปโรยๆไว้ เผื่อมันจะไม่ชอบกลิ่นอโรมาเทอราปี้ แล้วหนีออกไปหากลิ่นหมูสับเอง กรั่ก กรั่ก

เห่อ..ไล่งูเนี่ย น่ารำคาญมากจริงๆนะ เพราะไล่ยากไล่เย็น แล้วรอบๆตัวเราก็ดันมีแต่งูพิษยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเสียด้วย อันตรายจริงๆ ต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา ไม่รู้วันไหนจะโดนมันแว้งกัดเข้าอีก

เพราะโดนมาเยอะแล้ว จึงเบื่อมากแล้ว อยากจะบอกบรรดางูร้ายทั้งหลายที่อ่านหนังสือออก ฟังภาษาคนรู้เรื่องว่า อย่ามากัดชั้นอีกเลย แผลเต็มตัวไปหมดอย่างนี้ กัดไม่สนุกหรอก หวังว่าคงเข้าใจ!!!

วันเสาร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑

เดือนแห่งความรัก

นอนไม่หลับ
กระสับกระส่าย
เป็นๆ หายๆ
ทำยังไงดี???
หุหุ
ปล. นี่เป็นอาการของคนไม่มีคนรักด้วย กรั่ก กรั่ก