วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

สุดที่ร้าก

ไม่มีใครรักเรา เท่าแมวตัวนี้อีกแล้วในโลกนี้ ฮ่า ..

เขาชื่อ ก๋องก๋อย เป็นปู้ชาย อายุ 15 ปีฟ่าๆ แระ แต่ยังหล่อเฟี้ยว อยู่เรย

วันเสาร์ที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

คนที่ไม่อยากเจอ

ก็คือคนที่เราเกลียดไปแล้ว !

แต่ไม่รู้ทำไม ไอ้คนประเภทนี้ ถึงได้ตามราวีเรานัก พยายามหลีกหนีให้ห่างเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอยากเข้ามาป้วนเปี้ยน คลานยั้วเยี้ยอยู่ในรัศมี

เพราะเราไม่อยากเก็บสิ่งเลวร้ายไว้กับตัวอีกแล้วในเวลาที่ยังมีลมหายใจ และระลึกได้ตอนนี้ จึงพยายามเป็นอย่างมาก ที่จะไม่จองเวรจองกรรม ไม่ชอบต่อกรทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และก็จะทำได้ดีที่สุด คือการตัดสิ่งชั่วร้ายนั้น ออกไปจากชีวิต

แต่ก็อย่างที่บอก สิ่งที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยว อะไรที่เกลียดๆ มันก็มักจะได้พบเจอ จะได้โดยบังเอิญ หรือ ตั้งใจของอีกฝ่าย ก็สุดแล้วแต่ เพราะยังไง เราก็รู้สึกแย่ด้วยกันทั้งสองอย่าง

แต่กลับด้านกัน เป็นสิ่งที่เรารัก ต้องการมีไว้ใกล้ แต่มักหลุดลอยหายไป ทุกที...จนบัดนี้

วันเสาร์ที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

ทำไม่เป็น

รู้นะ ว่าถ้าอยากให้คนมารัก มาเป็นห่วงเป็นใย หรือมาเป็นอะไรต่อมิอะไรด้วย เราต้องทำตัวเป็นคนอ่อนแอ ประเภทว่ายืนด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีหลัก มีเสาให้เกาะ ประมาณนั้น

แต่ขอโทษ ทำไม่เป็นว่ะ!! เพราะฉะนั้น ใครอยากจะไปจากชั้น ก็เชิญไป

ไม่ว่า เขา หรือ เธอ คนนั้น จะเป็นใครก็ช่าง ถ้ายังไม่สามารถเข้าใจเนื้อแท้ของจิตเราได้ แม้เพียงน้อยนิด เราก็คิดเสียว่า เขามืดบอดเกินไป และเราเองก็ไม่มีแรง ไม่มีกำลังพอจะไปเปิดตาทุกคนได้

เพราะอย่างนี้ จะเรียกว่าความอดทนต่ำหรือเปล่า? ไม่แน่ใจนะ แต่เรื่องบางเรื่อง ไม่เกี่ยวกับความอดทน แต่เกี่ยวกับหลักการณ์ของการดำเนินชีวิต มากกว่า

ขึ้นอยู่ที่ว่า ใครจะมีหรือไม่? อย่างไร? แตกต่างกันออกไป แล้วแต่..

วันอาทิตย์ที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

บ้านไร่ในหุบเขา

ปีใหม่ปีนี้ ไปสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อนจีเขาชวนไปเที่ยว บ้านไร่ในหุบเขา จ้า

ออกเดินทาง วันที่ 30 ธันวาคม 50 กว่าจะกลับถึงกรุงเทพก็ วันที่ 2 มกราคม 51 ข้ามปีพอดี



ได้ลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาต ต่อตรงลงมาจากพี้นดินเลยเชียว เขาว่างั้น




เมื่อมีเขา เราก็ต้องไต่ขึ้นไปให้อยู่บนยอดให้จงได้ ฮ่า.. นี่เป็นคติประจำใจหรือป่าว? ไม่แน่ใจ แต่ที่นอนทำท่าสดชื่นอยู่นี่ เป็นยอดคอกหมู สุดชายแดนไทย-พม่า ตรงนี้มีทหารเฝ้าประจำการณ์อยู่กันพร้อมหน้า ใครอย่าได้แหยม




ขอบอกว่า ถึงแม้จะเป็นบ้านไร่ในหุบเขา แต่สวยเก๋ ล้ำสมัยยิ่งกว่าบ้านในกรุงเทพอีกนะยะ มีจานดาวเทียม สามารถมีอินเตอร์เนตใช้ได้ย่ะ ดูสภาพบ้านเขาซะก่อน ตอนนั้นเราต้องกลายเป็นแรพโย่ว เพราะอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 องศา จี๊ดดด..




แต่ตอนกลางวันค่อยอุ่นหน่อย ใส่เสื้อแขนกุดได้ นั่งตำสัมตำจากมะละกอที่ไปเด็ดมาจากต้น อร่อยหรือป่าว ? อันนี้ไม่แน่ใจ คิคิ




ขอขอบคุณ ผู้มีอุปการะคุณทั้งสองท่านมา ณ โอกาสนี้ คุณพ่อใจดีของจี กับคุณเพื่อนจี ก่อนกลับยังพามานั่งกินอาหารป่ารสเด็ดที่ร้านนี้อีก สุดยอดดด..!!!


อ้อ..ขอแถมรูปเพื่อนใหม่อีกซักใบ สองใบ สามใบ ก่อนจะลา..

คุณงูเห่าตัวนี้ พบกันโดยบังเอิญบนทางจะขึ้นเขาคอกหมู ลำตัวไม่ใหญ่มากมาย แค่ประมาณ 2 เมตรกว่ กว่าจะถ่ายได้ พี่แกก็เอาหัวเข้าไปหลบซะแระ ขี้อายน่ะ เห่อ..


คุณจอร์จค่ะ เขาชื่อคุณจอร์จ ตัวแสบเชียวล่ะ บังอาญกัดมือช้าน หนอย..

อุ๊ย..คุณตัวนี้ อัธยาศัยเป็นที่หนึ่ง ยิ้มแป้นแล้นได้ทั้งวันล่ะฮ่า.. กรั่กๆ กร๊ากๆ

วันเสาร์ที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

จากปีเก่าถึงปีใหม่

เดือนธันวาปี 50 เป็นเดือนที่โหดร้าย หนักหนาสาหัสกับเราเหมือนเคย

ความหนาวเย็นไม่เคยทำให้เรามีความสุขเลยซักครั้ง ทุกครามันจะมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ไม่ว่าจะทางกาย หรือทางใจจากคนรอบข้าง

สิ่งที่ทำได้ก็คือการให้ ไม่ว่าใครจะทำอะไรกับเรา เราจะไม่ตอบโต้ด้วยวิธีการแบบเดียวกัน เพราะนั่นไม่ใช่วิสัย อยากทำร้ายเราเท่าไหร่ เชิญทำกันเข้าไป ส่วนเรา ก็จะให้แต่สิ่งที่ดีๆกับคนที่ขาดๆ ต่อไป

อาการของพ่อเริ่มดีขึ้นมาก กินอาหารเองได้เกือบหมด แต่ยังลุกนั่งเองไม่ได้ เดินย่อมไม่ได้แน่นอน ต้องดูแลกันต่อไป

ได้พนักงานใหม่มาแล้วสองคน แต่ก็ทำใจไว้แล้วเหมือนกันว่าจะต้องเสียคนเก่าออกไป ถึงอย่างนั้นก็ไม่นึกว่าเขาจะทำแบบไม่ซื่อกับเราถึงขนาดนี้ เพราะปุบปับก็ไปเลยทันที ไม่มีบอกล่วงหน้า ไม่ได้ให้เวลาฝากงานกันต่อไปเลย ไม่เป็นไร ยังไม่ตาย ต้องดิ้นกันต่อไปอยู่แล้ว

ถึงตอนนี้ คงต้องทุ่มเทเวลาให้กับเรื่องงานเป็นอันดับแรก เพราะเราเองก็ไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องพ่อแม่แค่นั้น จากนี้ อาจจะบอกได้ว่า คงหาความสดชื่น ชุ่มฉ่ำ ให้กับชีวิตได้ยากยิ่งกว่าเดิมเยอะ

เพราะเวลาผ่านไป ชีวิตก็มีแต่จะโรยรา ร่วงโรยไปตามกาล ..