วันเสาร์ที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑

สงกรานต์ที่เกาะช้าง

นานๆทีได้มีวันหยุดยาวกะเขาแบบไม่ต้องลาทั้งที จะอยู่ทำไมเฉยๆให้เซ็งอารมณ์ ไปเปลี่ยนบรรยากาศที่เกาะช้าง เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และไปง่ายที่สุดกันเลยดีกว่า

เริ่มจากการที่ไม่ได้เตรียมตัววางแผนล่วงหน้า ไม่งั้นซื้อแพกเกจไป ประหยัดเงินกว่ากันเยอะ ดังนั้นจึงต้องให้เพื่อนจองรร.ให้ ซึ่งก็ได้ที่ วีเจเรสสิเดนซ์ ไม่แพงมาก สะดวก เดินไปทะเลเล่นน้ำที่รร.ทรอปิกาน่าที่ดาด้าทำงานอยู่ได้สบาย และจากหน้าต่างของห้องเรา มองลงมาก็จะเห็นวิวแบบในรูปนี่แหละ นับว่าได้ห้องที่สวยที่สุด เพราะอยู่ริมสุดเลย
ออกเดินทางกันจากสถานีเอกมัยตั้งแต่ 6.30 ตอนขามามีคนมาสายแต่รถดันรอนะ แต่พอขากลับเราสายเพราะเรือเฟอร์รี่ทำพิษ รถดันไม่รอ ต้องเลื่อนไปเที่ยวต่อไปแน่ะ ชิ !

วันแรกชิวๆ ไม่มีรัยมาก เล่นน้ำกันที่สระของรร. ซึ่งใหญ่พอดี และไม่ค่อยมีคนเล่นด้วย สบายเราเลยล่ะ เหมือนเป็นสระส่วนตัว ฮี่ๆ ว่าจะไปดินเนอร์กันที่ชายหาดเพราะอยากดูโชว์กระบองไฟ แต่ก็ไปไม่ทันรถ เอ้า..ไม่เป็นไร เดินเล่นกินกันแถวหน้ารร.ก็ได้ นั่งสบายๆ คนไม่เยอะ

วันที่สอง เราซื้อทัวร์ไปดำน้ำกัน ตอนแรกกะว่าจะไปกะเรือใหญ่ ซึ่งไป 4 เกาะเลย แต่ดาด้าดันบอกว่าคนเต็มเอานาทีสุดท้าย จะให้เลื่อนไปพรุ่งนี้ แต่เตรียมตัวมากันแล้วอ่ะ ไม่อยากเลื่อน ดาด้าก็เลยต้องหาเรือเล็กให้ไป แต่ไม่รู้ดีกว่าไปเรือใหญ่หรือป่าว เพราะได้ไปแค่ 2 เกาะเล็กๆ ดำน้ำอยู่นั่น เหนื่อยแทบร่วง ขึ้นเรือมาเมาเรืออีก กินข้าวไม่ได้ นอนสลบเลย เห่อ.. แต่ได้ข่าวว่า เรือใหญ่ที่ไปกัน มีคนจมน้ำตาย 1 คน บรื๊อออ..

วันนี้ด้วยความฟลุค เราลืมเอาน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์มา จึงต้องดั้นด้นฝ่าดงน้ำดงแป้งออกไปซื้อถึงอีก 2 กิโลกัน แต่พอไปถึงร้านแว่น เลยมองเห็นว่า อ้อ..ที่แท้เรามาถึงรร.ที่เราตั้งใจจะมาเมื่อวานแล้วนี่หว่า เลยเข้าไปดินเนอร์กันที่นั่นเลย ได้รูปสวยๆยามโพล้เพล้กลับมาไว้เชยชมแบบที่เห็นนี่ล่ะ ชอบจังเรย คิคิ

วันที่สาม 14 เมษา 2551 วันนี้กะเล่นน้ำทะเลกันที่ชายหาดของทรอปิกาน่าอย่างเดียวเลย จองคิวนวดน้ำมันกันไว้ตอน 11 โมงเช้า ว๊าว..สบายจัง ไม่ต้องรีบเร่ง เป็นวันที่มีความสุขมากๆอีกวันหนึ่งเลยล่ะ (ซึ่งหาได้ยากและน้อยมากในชีวิต) หลังจากกินอาหารเช้ากันแบบสบายๆ ก็เดินไปชายหาดทรอปิกาน่า เล่นน้ำทะเลซึ่งต้องพยายามกันมากหน่อย เพราะต้องเดินออกไปไกลโพ้นกว่าจะหลุดพ้นกองหินอันตรายใต้น้ำ แต่ก็ดี เพราะไม่มีคนเลย สบายสุดๆ ถึงน้ำจะไม่ใสเท่าทะเลใต้ แต่ก็นับว่าโอเคล่ะ

กลับมานอนเล่นอ่านหนังสือกันริมชายหาด เพลินไปหน่อย รู้สึกตัวอีกทีเกือบเที่ยงแระ แต่หมอนวดเขาก็ไม่ว่าหรอก เลื่อนไปเป็นเที่ยงก็ด้าย อิอิ แล้วก็นอนเกือบเปลือย.(ว๊าย~) ให้เขานวดอีกหนึ่งชม. อ้อ..ต้องบอกว่าทุกอย่างที่รร.นี้ราคาปกติแพงมาก แต่เราได้พิเศษกันหมดเพราะดาด้าเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง สบายแบบนี้ล่ะ มีเพื่อนไว้หลายๆที่ อิอิ

ที่รร.จัดโชว์ช้าง โชว์มวยทะเล และก็เล่นชักเขย่อกันตั้งแต่ตอนบ่ายสาม เรากะมิตเตก็พลอยลงเล่นด้วย ได้เบียร์มากินฟรีกันอีกคนละขวด พอตอนเย็นมิตเตเห็นเขามีโปรแกรมโชว์หลายอย่าง เช่น กระบองไฟ(อันนี้อยากดูตั้งแต่วันแรกแล้ว) กระบี่ กระบอง ฟันดาบ รำหนุมาน ทศกันฐ์ และอื่นๆ อีก ก็เลยตัดสินใจซื้อโต๊ะกัน เพราะได้ราคาประมาณครึ่งเดียวอีก

วันสุดท้าย 15 เมษา รวมเวลา 4 วันตั้งแต่มา กะเวลาไว้อย่างดีว่าต้องออกจากรร. 11 โมงเช้า เผื่อเวลาไว้ 3 ชม. แต่ก็ยังพลาด เราน่ะไม่พลาด เพราะออกตรงเวลา แต่ว่าทั้งรถ ทั้งเรือ ติดอะไรกันนักหนาไม่รู้ ทำให้เราข้ามฝั่งไปขึ้นรถบัสรอบบ่ายสองที่จองไว้ไม่ทัน ต้องเลื่อนไปเป็นบ่ายสี่ ซึ่งเกือบเลื่อนไม่ได้ด้วยนะ เพราะคนเต็มทุกรอบ ดีที่เราโทรเช็คกะคนจัดคิวตลอดว่าอยู่ไหนแล้ว เขาเลยพยายามหาที่นั่งให้ ซึ่ง..แหวะมั่กๆ ได้นั่งติดกะส้วม เหม็นอ่ะ แต่ก็ยังดีที่ไม่ต้องนอนอยู่ต่ออีกคืนหนึ่ง เนอะ

พอกลับมาถึงบ้าน มีความรู้สึกว่าเหมือนแค่นอนหลับฝันไป ยังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเราไปไหนมา เพราะเหมือนว่าเรายังไม่ได้ไปไหนเลยอ่ะ จริงๆนะ แบบ..เดจาวู อ่ะ

เอ๊ะ..หรือนี่คือ อาการของคนอินเลิฟ ฮิ้ววว~~ ....

วันจันทร์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑

วันนี้

ห่างหายไดอารี่ที่ค่อนข้างจะส่วนตั๊ว ส่วนตัวนี้ไปหลายวันโข เกือบเดือนก็ว่าได้ ไม่เค้ย ไม่เคยห่างไปนานขนาดนี้ เด่วต้องรีบเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาซะก่อนที่จะลืม

มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งในชีวิตส่วนตัว ที่เคยคิดว่าไม่มีอะไร ไม่มีใครแล้ว อยู่มาวันหนึ่ง เวลาก็พิสูจน์ถึงคำว่า "คนที่ใช่" สำหรับเราจนได้ (วุ๊ย..อายจัง) ไม่อยากบอกเลยว่า วันนี้หัวใจไม่ว่างซะแล้ว ก็ไม่ใช่คนใหม่ที่ไหน แต่เป็นคนเก่าที่บัลกาเรียนั่นแหละ ทำไปทำมา ก็ต้องกลับมาพบรักกันจริงๆ ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ เราอุตส่าห์ตัดใจไปสิบรอบแล้วนะ แต่ก็ต้องวนกลับมาเจอกันอีกจนได้ บางทีเราก็โมโห ฉุนเฉียว และพาลรู้สึกเกลียดไปหลายครั้ง แต่ถ้าไม่ผ่านอารมณ์และช่วงเวลาเหล่านั้น เราคงไม่ได้รู้จักคำว่า รัก อย่างแท้จริงกัน เป็นความรักที่ไม่ใช่รักแต่ฝ่ายเดียว เหมือนที่เราเคยเจอมาบ่อยๆ แต่เป็นความรักที่เจอกันครึ่งทาง ต่างคนต่างผลัดกันรัก ผลัดกันเจ็บ ก็สมบูรณ์ดีอ่ะนะ เราว่า

พอดีกว่าเรื่องรักๆ เอาเรื่องงานมั่ง ยังไม่ได้เอารูปมาอัพเดทให้ดูเลย เพราะช่วงนี้เริ่มยุ่งจัดอีก ยิ่งมีเรื่องส่วนตัวเข้ามา ยิ่งหาเวลาว่างไม่ค่อยจะเจอ ก็เมื่ออาทิตย์สิ้นเดือน ไปเมืองจีนมาน่ะสิ กวางโจว ไปทำงาน ทั้งประชุม ทั้งออกบูท แต่ก็ไม่ได้ไปขายอะไรกะเขาหรอก เพราะไม่ค่อยมีลูกค้าคนไทย นับได้ทั้งสองวันที่ไปยืน มีมาสองคนเองคนไทยง่ะ งิงิ รู้สึกอายยังไงก็ไม่รุ แต่ไม่เป็นไร ยอดขายในเมืองไทยไม่ตกเป็นใช้ได้ ให้ประเทศอื่น(บริษัทเดียวกันนะ) เขาขายต่างชาติไปก็ได้

กวางโจวที่ไป ขอบอกว่าให้ไปอีกไม่ไปเด็ดๆ ไม่ได้รู้สึกอยากไปเที่ยวไหนเร้ย ถึงมีเวลาก็เหอะ แต่ก็ไม่มีเวลาหรอกนะ ประชุมเสร็จก็เย็น กินอาหารกันเสร็จก็มืด เข้าห้องนอนเล่นเนตดีกว่า ฝนตกด้วย อากาศแย่มาก ถนนหนทาง ห้องน้ำสาธารณะสกปรกเป็นที่สุด ไม่ไหว ไม่ต้องถึงขนาดเข้าไปใช้หรอก แค่เดินผ่านห้องน้ำใต้รร.ที่พัก ยังยกมือปิดจมูกแทบไม่ทัน แหยะ!!

ตอนก่อนไปกะว่าจะลองไปหาโทรศัพท์มือถือถูกๆสักเครื่อง แต่ไปจริงๆ เราว่าเมืองนี้ขายของแพงอ่ะ บางรุ่นแพงกว่าเมืองไทยอีก สรุปเลยไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลย ได้โสมเม็ดมาสามกล่อง ฝากน้องๆที่ทำงานยังไม่ครบคนเลย รู้สึกผิดมากๆ เอาไว้เดี่ยวค่อยแก้ตัวใหม่ ไปเที่ยวสงกรานต์เจอขนมอร่อยๆ ค่อยซื้อกลับมาฝากกันเนอะ โสมเม็ดที่ได้นั่น ก็เพราะร้านมันอยู่หน้ารร.เอง แล้วกะว่าก่อนวันกลับจะข้ามถนนไปซื้ออีกรอบ ปรากฏว่าเอาเข้าจริงๆ หมดเวลาไม่ทันการณ์ อีกอย่าง อุปสรรคสำคัญ คนที่นั่นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เรยยยยย ไปไหนคนเดียวไม่ได้เด็ดๆ ต้องเอาเพื่อนคนจีนไปด้วยทุกครั้ง เห่อ...นี่แหละทำให้ซื้อเองไม่ได้

อุ๊บบซ์ .. เวลาอันน้อยนิดผ่านไปอีกแล้ว ต้องรีบไปอาบน้ำนอนก่อนล่ะ พรุ่งนี้ไปทำงานและนับไปอีก 4 วัน ก็ได้ไปเที่ยวทะเลแย้วววว~~วู้ววว~~~